ครอบครัวมีความสุข

หากการสร้างครอบครัวให้เป็นสุขเป็นโจทย์ที่ง่ายใครๆก็ทำได้ คงไม่มีปัญหาหรือเหตุแห่งการหย่าร้างเป็นแน่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในปัจจุบันนี้ ครอบครัวที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาม พ่อ แม่ และลูกๆ อาจหายากมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อความอดทนของชีวิตคู่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น รหัสของสำเร็จในครอบครัวคือ ความอดทน และการให้อภัยต่อกัน ถ้าปราศจากสองสิ่งนี้เมื่อใดสายป่านแห่งครอบครัวก็จะขาดสะบั้นลงทันที

แน่นอนว่า การที่จะสร้างครอบครัวให้มีความสุขสมบูรณ์ได้นั้น บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือ สามี-ภรรยา หรือพ่อแม่ของลูกๆ เพราะทั้งสองคนจะเป็นผู้ที่มีบทบาทในการสร้างคน สร้างครอบครัว ให้มีบทบาทในทิศทางเดียวกัน

โดยปัญหาหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการสร้างความสุขในครอบครัว ก็คือความขัดแย้งระหว่างสามีภรรยา ซึ่งจะส่งผลกระทบมาที่ตัวลูกและสมาชิกทุกคนในครอบครัว ฉะนั้น จึงควรมาศึกษาและหาทางแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อที่จะไม่ให้ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นในครอบครัวได้

ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว พอแยกได้ว่ามาจากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ

1. “นิสัยและความเคยชินส่วนตัว”

เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงกันยากมาก เพราะเป็นนิสัยติดตัวมานาน เคยปฏิบัติซ้ำๆ มาแล้วในอดีต ถึงแม้จะเปลี่ยนได้ แต่ก็เป็นเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นสามีภรรยาจะต้องยอมรับ และทำใจให้ได้แล้วปรับตัวเข้าหากัน ผ่อนสั้นผ่อนยาว ถึงจะอยู่ด้วยกันยืนยาว

2. “ขาดความตระหนักในบทบาทและหน้าที่”

สมัยก่อนสามีมีบทบาทเป็นผู้นำ หาเงินเลี้ยงครอบครัว ปัจจุบันสตรีมีบทบาทในการทำงาน หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวเช่นกัน แต่สตรีก็ยังต้องมารับผิดชอบงานในบ้าน และอบรมสั่งสอนบุตรธิดาอีก จึงทำให้บางครั้งภรรยารู้สึกหงุดหงิด และจุกจิกจู้จี้ไปบ้าง ทำให้เกิดความขัดแย้งได้

และสามีบางคนก็ไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง คอยตำหนิ ดุด่าภรรยาว่าไม่อบรมเลี้ยงดูบุตร ทั้งๆ ที่งานอบรมเลี้ยงดูบุตรก็เป็นหน้าที่โดยตรงของทั้งพ่อและแม่ ฉะนั้น ทั้งสองคนต้องช่วยเหลือกันในการอบรมเลี้ยงดูบุตร ตลอดจนการงานในบ้านที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

3. “ไม่มีเวลาให้กันและกัน”

เนื่องมาจากต่างฝ่ายต่างมีภารกิจต้องทำงาน บางทีก็แยกกันอยู่ ทำให้ไม่มีเวลาพูดคุย รับรู้สารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ครอบครัวจึงควรมีวันแห่งครอบครัว สัปดาห์ละ 1 วัน หรือแล้วแต่ตกลงกัน มีเวลาอยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก มีกิจกรรมร่วมกัน

 4. “ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาในครอบครัว”

 การทะเลาะ ดุด่า ข่มขู่ จนกระทั่งลงมือตบตีกัน นับเป็นทางออกที่เรียกได้ว่าเป็นการลงมือ ลงแรง โดยปราศจากสติปัญญา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการพูดยั่วยุของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายโกรธจนทนไม่ได้ ลงมือทำร้าย เพื่อระงับเหตุ

5. “ไม่ซื่อสัตย์”

การนอกใจกันของสามีหรือภรรยา นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายครอบครัวพังมาแล้วนับไม่ถ้วน

และเมื่อทราบถึงสาเหตุของการนำไปสู่ความแตกร้าวในครอบครัว เราลองมาดูแนวทางการแก้ไขกันบ้าง

1. “ไม่ควรพูดยั่วยุ” เพราะการพูดจายั่วโมโหใส่กันนอกจากจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจแล้ว ยังทำให้คุณค่าในตัวเองลดน้อยลงไปด้วย

2. “ตั้งกติกาครอบครัว” เช่น ไม่โกรธกันนานเกิน 1 อาทิตย์ ผู้ใดเป็นฝ่ายผิดต้องขอโทษก่อน และอีกฝ่ายต้องรีบให้อภัย และไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกเสียหน้า

3. “หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า”ถ้าทนไม่ไหวต่อการยั่วยุจริงๆ ให้หลีกเลี่ยงการลงไม้ลงมือ โดยการเดินหนีไปสักระยะหนึ่ง เมื่อหายโกรธค่อยกลับมา

4. “ไว้ใจซึ่งกันและกัน” เมื่อเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ จึงต้องมีความเข้าใจกัน และร่วมมือร่วมใจกันเพื่อความสุขของทั้งสองฝ่าย

ดังนั้นความไม่เข้าใจกัน มีความระแวง สงสัย ไม่ไว้วางใจกันและกัน แสดงตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ จู้จี้บ่นมากเกินไป อาจบั่นทอนความสุขในชีวิตครอบครัวได้

อย่างไรก็ดี นอกจากสาเหตุและแนวทางแก้ไขที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ยังมีเคล็ดลับ 3 ไม่ 4มี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในครอบครัวดังนี้ คือ

สิ่งที่ต้องละเว้นคือ 3 ไม่

1. ไม่จุกจิก จู้จี้

2. ไม่เป็นเจ้าของหัวใจ

3. ไม่ตำหนิติเตียน

และสิ่งจำเป็นต้องมีคือ 4 มี

1. ยกย่องให้เกียรติ

2. เอาอกเอาใจยามป่วยไข้ควรดูแล

3. วาจาสุภาพอ่อนโยน

4. มีความรู้เรื่องเพศ

และหากสามีนอกใจภรรยา สิ่งที่ผู้หญิงควรคำนึงถึงคือ ปัญญัติ 7 ประการ เมื่อสามีนอกใจ ดังนี้

1. หาความรู้เรื่องเพศ

2. ไม่ตัดสินใจหย่าง่ายๆ

3. ไม่แก้แค้นแบบเกลือจิ้มเกลือ

4. ไม่แก้แค้นแบบไม่ให้สามีนอนด้วย

5. ไม่แก้แค้นโดยคาดคั้นให้สามียอมรับ

6. ไม่สืบสวนโดยจ้างทนายสืบ

7. ไม่โพนทะนา

อย่างไรก็ดี หากคนในครอบครัวมีปัญหากัน ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือสมาชิกคนอื่นๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้มันค้างคาจนกลายเป็นปัญหาที่ลุกลามเพราะความไม่เข้าใจกัน

ทุกคนควรหันหน้าเข้าพูดจากัน หาวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกันไม่ผลักภาระความรับผิดชอบให้ฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบ สื่อสารด้วยวาจาสุภาพอ่อนโยน ไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหาแล้วความขัดแย้งต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เพราะอย่าลืมว่า คงไม่มีใครคนไหนจะมีความสุขได้ถ้าคนในบ้านไม่รักกัน

สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งของการอยู่ร่วมกัน อีกประการหนึ่งคือการเคารพในสิทธิของกันและกัน ซึ่งแต่ละคนควรจะต้องรู้ว่าตนนั้นมีสิทธิอะไร และมากน้อยเพียงใด ท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) กล่าวถึงสิทธิของบุคคลไว้ในปฏิญญาสากลว่า

สิทธิของภรรยา

สิทธิของผู้อยู่ภายใต้การปกครองโดยผ่านการสมรส (ภรรยา) คือ การที่ท่านต้องตระหนักเสมอว่าอัลลอฮฺทรงกำหนดให้นางเป็นเพื่อนคู่คิดที่จะพยาบาลหัวใจของท่านให้สงบลง วาญิบที่ท่านจะต้องกตัญญูรู้คุณพระองค์ที่ทรงประทานให้เจ้าทั้งสองเป็นคู่ครองกัน จงตระหนักถึงความโปรดปรานที่พระองค์ทรงประทาน วาญิบที่ท่านจะต้องปฏิบัติต่อคู่ครองซึ่งเป็นความโปรดปรานของอัลลอฮฺด้วยกิริยามารยาทที่ดีงาม จงให้เกียรติและมีไมตรีจิตกับนาง แม้เจ้าจะมีสิทธิเหนือนางก็ตามตราบเท่าที่นางไม่ก่อกรรมทำชั่ว การเชื่อฟังปฏิบัติตามขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้า ฉะนั้น นางมีสิทธิที่จะได้รับความเมตตาและความเป็นเพื่อนคู่คิด ความสงบมั่น ความหฤหรรษ์เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่นางต้องได้รับ ไม่มีพลังอำนาจ  นอกจากอัลลอฮฺ

สิทธิของบิดา

สิทธิของบิดา คือ การตระหนักเสมอว่าท่านคือต้นกำเนิดเจ้าและเจ้าเป็นกิ่งก้านสาขาของท่าน ถ้าปราศจากบิดาย่อมไม่มีเจ้า ฉะนั้น คราใดที่เจ้ามองดูสิ่งสวยงามในตัวเจ้า จงตระหนักเถิดว่าบิดาของเจ้า คือ ต้นกำเนิดความสวยงามนั้น จงสรรเสริญและขอบคุณอัลลอฮฺในความโปรดปรานทั้งหลายเถิด ไม่มีพลังอำนาจ นอกจากอัลลอฮฺ

สิทธิของแม่

สิทธิของมารดา คือ การตระหนักเสมอว่าท่านได้อุ้มครรภ์เจ้ามาอย่างยากลำบากชนิดที่ไม่มีใครกล้าแบกรับภาระนี้

แม่เฝ้าปรนนิบัติป้อนอาหารท่านด้วยความรักสุดขั้วหัวใจชนิดที่ไม่มีใครสามารถปฏิบัติได้เยี่ยงนั้น

แม่เฝ้าถนอมเลี้ยงดูเจ้าโดยยอมเสียสละตั้งแต่เส้นผม หู ดวงตา มือ เท้า เนื้อหนังมังสาทั่วสรรพางค์กายของแม่

แม่เฝ้ารับใช้เจ้าด้วยความสุข ร่าเริงเบิกบาน ด้วยความเต็มใจ อดทนต่ออุปสรรคขวากหนาม ความยากลำบาก สิ่งที่ไม่สบอารมณ์ ความเจ็บปวดรวดร้าว และความเศร้าหมอง

แม่เฝ้าปกป้องภยันตรายมิให้มากล้ำกรายเจ้าเต็มกำลังความสามารถที่มีอยู่

แม่เฝ้าชุบเลี้ยงจนกระทั่งเจ้าเติบโตบนหน้าแผ่นดิน

แม่ยินดีที่เจ้าอิ่มถึงแม้แม่จะอดหิวโหย

แม่สุขใจที่เจ้ามีอาภรณ์สวมใส่ถึงแม้แม่จะต้องเปลือยเปล่าท่ามกลางความหนาวเย็น

แม่ตื้นตันใจที่เจ้าได้ดื่มกินอย่างอิ่มหนำสำราญถึงแม้แม่จะหิวกระหาย

แม่เสียสละให้เจ้าได้อยู่ภายใต้ร่มเงา ถึงแม้แม่จะต้องตกอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา

แม่ให้เจ้าได้อิ่มเอิบเบิกบานใจ ถึงแม้แม่จะต้องอกตรมขมขื่น

แม่ให้เจ้าได้พักผ่อนอย่างสำราญใจ ถึงแม้แม่จะต้องอดตาหลับขับตานอน

ครรภ์ของนางคือภาชนะที่เคยห่อหุ้มปกคลุมเจ้า

ตักของแม่คือสถานพำนักพักพิงที่เคยชุบเลี้ยงเจ้า

อกของแม่คือธารน้ำที่เจ้าเคยดื่มกิน

ชีวิตของแม่คือเกราะคุ้มครองป้องกันภัยให้เจ้ามาก่อน

แม่ต้องลิ้มรสชาติความร้อนหนาวแห่งโลกนี้เพื่อปกปักษ์รักษาเจ้า ฉะนั้น ได้โปรดแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อแม่จนสุดความสามารถเถิด ทว่า เจ้าจะไม่มีวันได้รับพรประเสริฐ นอกจากด้วยการขอความสัมฤทธิ์ผลจากอัลลอฮฺเท่านั้น

สิทธิของบุตร

สิทธิของบุตร คือ การตระหนักเสมอว่าเขาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า ความดีความชั่วที่เขาประกอบบนโลกนี้จะส่งผลต่อตัวเจ้าด้วย การขัดเกลามารยาทให้ดีงามเป็นความรับผิดชอบของเจ้า การชี้นำสั่งสอนบุตรให้ไปสู่พระผู้อภิบาลและสนับสนุนให้เชื่อฟังปฏิบัติตามพระองค์ ถือเป็นหน้าที่ของเจ้า เจ้าจะได้รับรางวัลตอบแทน หรือจะถูกทรมานก็ขึ้นอยู่กับภารกิจดังกล่าว ฉะนั้น จงทำหน้าที่ของพ่อที่มีต่อลูก เสมือนเจ้ามีส่วนร่วมรับรางวัลจากการกระทำของเขาในโลกนี้ด้วย เมื่อเจ้าปฏิบัติจนสุดความสามารถย่อมหมดพันธะผูกพันระหว่างเจ้ากับเขา เจ้าย่อมพ้นความรับผิดชอบ ณ พระผู้อภิบาล ไม่มีพลังอำนาจ นอกจากอัลลอฮฺ

สิทธิของพี่น้อง

สิทธิของพี่น้องของเจ้า คือ การที่ตระหนักเสมอว่าเขาคือมือ (กำลังสำคัญ) ของเจ้า

เป็นที่พำนักพักพิงที่ดีของเจ้า

เป็นศักดิ์ศรีที่เจ้าควรให้ความเชื่อถือ

เป็นแสนยานุภาพที่เจ้าใช้พิชิต (ศัตรู) ฉะนั้น อย่าอาศัยพี่น้องของเจ้าในหนทางที่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺ

อย่าอาศัยเขาเป็นอาวุธประหัตประหารสิ่งถูกสร้างของพระองค์ด้วยวิถีที่อยุติธรรม

จงอย่าขอความช่วยเหลือในภารกิจของเขาแต่จงสนับสนุนในการเผชิญหน้ากับศัตรูของเขา

จงสกัดกั้นซาตานมารร้ายมิให้มาแผ้วพานเขา

คอยแนะนำตักเตือนและมีมิตรสัมพันธ์กับเขาเพื่ออัลลอฮฺ ดังนั้น ตราบเท่าที่เขาเชื่อฟังปฏิบัติตามพระผู้อภิบาล ก็จงตอบรับเขาด้วยดี มิฉะนั้น ก็จงให้เกียรติบทบัญญัติของอัลลอฮฺให้เหนือกว่าความเป็นพี่น้องของท่านกับเขาเถิด